You Tube is a website designed for sharing video.millions of users around the world have
created accounts on the site that allow them to upload videos that anyone can watch. Every
minute of every day, more than 35 hours of video is uploaded to you tube.
Use for is a share (share) upload, share videos or watch videos on the site in video format.
The videos show the capabilities of the home.
You Tube Founded on February 15,2548 by Chad Hurley,Steve Ghen and Karim drug
สรุป
You Tube เป็นบริการ ที่ใช้ในการ แชร์วีดีโอ อัพโหลด หรือ ดูวีดีโอผ่านเว็บไซต์ได้เกิดจาก ฮอร์ลีย์ สตีฟ
เชง และ ยาวีด คาริม อดีตพนักงานบริษัทเพย์พาล
วิธีการใช้ Search Engine ให้ค้นหาข้อมูลอย่างเร็ว
ที่มา: http://en.wikipedia.org/wiki/Web_search_engine
weblog is a discussion or informational site published on the World Wide Web and consisting of discrete entries ("posts") typically displayed in reverse chronological order (the most recent post appears first).
ที่มา:http://en.wikipedia.org/wiki/Blog
Web browser คือซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการท่องเว็บหรือใช้ดูข้อมูลที่อยู่ในหน้าเว็บเพจ
ที่มา: http://xn--webbrowser-zc5aprjea9b5g9j.blogspot.com/
browser is a software application for retrieving, presenting and traversing information resources on the World Wide Web. An information resource is identified by a Uniform Resource Identifier (URI/URL) and may be a web page, image, video or other piece of content.[1] Hyperlinks present in resources enable users easily to navigate their browsers to related resources.
ที่มา:http://en.wikipedia.org/wiki/Web_browser








วิธีการใช้ Search Engine ให้ค้นหาข้อมูลอย่างเร็ว
เป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนยังไม่เคยใช้ในการกำหนดคำหรือ Keyword
ในการค้นหาข้อมูลที่ต้องการบนเว็บไซต์ที่ yahoo.com หรือ google.com
ซึ่งเทคนิคในการค้นหาข้อมูลอย่างเร็วมีข้อแนะนำดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการใช้ Keyword ที่มีความหมายกว้าง ๆ เช่น Tour หรือ Thailand
หากใช้คำประเภทนี้ค้นหา จะได้ชื่อ Website ออกมาเกิน 100,000 Website
ซึ่งยากและเสียเวลาต่อการค้นหาข้อมูลที่ต้องการจริง ๆ จึงควรจำกัดคำให้สั้นลง เช่น
thailand package tour 2013 ก็จะเป็นการจำกัดข้อมูลลงได้มาก
- สามารถใช้เครื่องหมายคำพูด “Thailand” เพื่อกำหนดขอบเขตของข้อมูลในการคนหาได้
จะทำให้ได้ผลลัพธ์แคบลง
- ใช้ตรรกศาสตร์เข้าช่วย ได้แก่ AND, NOT, OR หากพิมพ์ Keyword คำว่า Computer
AND Hardware ก็แสดงว่า Website ที่จะแสดงออกมาจะต้องมีทั้งคำว่า Computer และ
Hardware ปรากฏอยู่ใน Website ดังกล่าว และหากพิมพ์คำว่า Software NOT Macromedia
ก็จะหมายถึง Software ที่ไม่ใช่ของบริษัท Macromedia และตรรกศาสตร์ตัวสุดท้าย คือ
OR หากพิมพ์คำว่า Macromedia OR Microsoft ก็จะหมายถึงบริษัท Macromedia หรือบริษัท
Microsoft อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นต้น
- การใช้ Wildcard (*) เข้าช่วย เช่น พิมพ์คำว่า Hyper* ก็จะหมายถึง
ค้นหาคำอะไรก็ได้ที่ขึ้นต้นด้วย Hyper ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะเป็น Hypermedia,
Hypertext, Hypercard หรือคำอื่น ๆ ที่ขึ้นต้นด้วย Hyper
- การใช้เครื่องหมาย + เข้าช่วย เครื่องหมาย + มีผลเหมือนกับ AND เช่น
เมื่อพิมพ์คำว่า Tour + Thailand ก็จะหมายถึง การท่องเที่ยวในประเทศไทย
หากพิมพ์เพิ่มอีก 1 ประโยคเป็น Tour + Thailand + Chiangmai
ก็จะจำกัดผลลัพธ์ให้แคบลงเหลือเฉพาะท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีเทคนิคอื่น ๆ อีก ซึ่งใช้ผสมผสานกัน เช่น
พิมพ์ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ ระบบก็จะเข้าไปหาคำนั้น ๆ ก่อนอักษรตัวเล็ก
เป็นต้น ให้ลองฝึกฝนใช้งานดูบ่อย ๆ แล้วจะรู้ว่า Search Engine ก็ฉลาดพอสมควร
ที่มา
: it-guides.com
web search engine is a software system that is designed to search for information on the World Wide Web. The search results are generally presented in a line of results often referred to as search engine results pages (SERPs). The information may be a mix of web pages, images, and other types of files. Some search engines also mine data available indatabases or open directories. Unlike web directories, which are maintained only by human editors, search engines also maintain real-time information by running an algorithm on a web crawler.
ที่มา: http://en.wikipedia.org/wiki/Web_search_engine
ที่มา
: it-guides.com

Weblog คืออะไร
ความหมายของ Weblog
บล็อก (อังกฤษ: blog) เป็นคำรวมมาจากคำว่า เว็บล็อก (อังกฤษ: weblog) เป็นรูปแบบเวปไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก
Blog คืออะไร
Blog เป็นเว็บไซต์ที่สามารถเป็นได้หลากหลายอย่างแล้วแต่เจ้าของอยากให้เป็น ตั้งแต่ไดอารีส่วนตัว สถานที่สำหรับใช้ในการทำงานร่วมกัน (collaborative work space) หรือสภากาแฟสำหรับคุยเรื่องการเมือง แหล่งรวมข่าวสารความเป็นไป แหล่งรวมลิงค์ ไปจนถึงสมุดบันทึกความเป็นไปของโลกใบนี้ สรุปก็คือ "Blog" เป็นที่ซึงเราเอาไว้เขียนเรื่องราวที่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ โดยเรื่องที่เขียนเข้าไปใหม่ จะอยู่ส่วนบนสุด ซึ่งทำให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม สามารถอ่านเรื่องราวใหม่ๆได้ และยังสามารถที่จะเสนอแนะหรือติชมได้ ในกรณีที่เจ้าของ Blog นั้นๆ อนุญาติ
ที่จริงแล้ว Blog ได้ถือกำเนิดขึ้นมากว่า 5 ปีแล้ว แต่เพิ่งจะมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในช่วงปีที่ผ่านมานี้เอง และได้เปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับการใช้เว็บไซต์ ตลอดจนมีการประยุกต์ใช้ในหลากหลายรูปแบบ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้คนนับล้านๆทั่วโลกได้มีโอกาสสื่อสาร และติดต่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกันทั่วโลก นอกจากนี้ยังมี Group Blogs ที่เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของ blog ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารกันสำหรับกลุ่มคน อย่างเช่น ทีมงาน สมาชิกครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนต่างๆ โดยที่ Group Blogs นี้จะเป็นพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนข่าวสาร Links และไอเดียต่างๆ
ผู้ที่ใช้งาน Blog หรือเจ้าของ Blog เราจะเรียกว่า "Blogger" สามารถเข้าไปอัพเดต blog ของตนเอง ณ ที่ใดก็ได้ที่สามารถเข้าถึง Intenet ได้ โดยไม่แน่ว่าในอนาคต ThaiBlogOnline อาจจะให้เจ้าของ blog สามารถอัพเดต blog ของตนเองผ่านทาง SMS มือถือก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังสามารถโพสรูปภาพ เสียง และวีดีโอไปยัง blog ได้อีกด้วย
Weblog ทำอะไรได้บ้าง
อนุญาติให้ผู้ใช้งานหรือ blogger สามารถโพสรูปภาพ ในรูปแบบ jpeg, gif และ png ได้ สามารถโพสไฟล์ Macromedia Flash (.swf) ได้ และไฟล์มัลติมีเดีย mpeg, mpg, avi, mp3, wma ได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานสามารถสร้างเนื้อหาของต้นเองได้ด้วยวิธีง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้คำสั่ง HTML หรือ Javascipt แต่อย่างใด เพราะทูลที่เรานำมาให้ใช้งานนั้น เป็นทูลแบบ WYSIWYG (what you see is what you get) อย่างเช่น ปรับขนาดตัวหนังสือ เปลี่ยนสี ขึ้นย่อหน้า ใส่รูป ด้วยการคลิ้กเมาส์ไปที่ทูลบาร์ต่างๆ เสมือนกับการใช้งานโปรแกรมสำเร็จรูปอย่าง Microsoft Word เป็นต้น
ประโยชน์ของ Weblog
Blog มีไว้เพื่อตอบสนองตัณหาของเจ้าของ blog ถึงแม้ว่า blog จะมีลักษณะหน้าตาคล้ายกัน แต่ blog แต่ละแห่งจะมีบุคลิกเฉพาะตัว แตกต่างกันไปเหมือนบุคลิก บาง blog แค่เล่าเรื่องชีวิตประจำวัน บาง blog เกาะติดข่าว บาง blog คุยเรื่องการเมืองหรือปรัชญา จงนั้นอาจแบ่งประโยชน์ได้หลายแบบด้วยกัน ซึ่งอาจจะแจกแจงได้ดังนี้
1.เปิดตัวเองให้โลกรู้ เรื่องของ blog มักเป็นเรื่องราวของเจ้าของ blog เป็นการเล่าประสบการณ์หรือความคิดของเจ้าของ เป็นการถ่ายทอดความคิดความรู้สึกของเจ้าของ blog เป็นการระบายความเคลียดอีกทางหนึ่ง
2.ทันข่าวทันเหตุการณ์ ประสบการณ์บางคนก็เป็นข่าวเห็นอีกหลายคนได้ ข่าวจาก blog หลายแห่งเป็นข่าววงใน บางคนเล่าเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุที่เจอมา หลาย blog พูดถึงแนวโน้มหรือความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ
3. กลั่นกรองข้อมูล blog บาง blog จะมีการกลั่นกรองข้อมูลก่อนนำลง blog ทำให้ผู้อ่าน blog ไม่ต้องเสียเวลาในการกลั่นกรองข้อมูล เพราะมีการนำเสนอข้อมูลหรือมีไกด์ในการท่องเว็บ
4. รายงานการท่องเว็บ เป็นวัตถุประสงค์หลักที่เป็นต้นกำเนิดของการทำ blog หลาย blog มีการลิงก์ไปยังเว็บที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน blog ซึ่งเป็นการแนะนำว่าเว็บไหนดีก็ไปที่เว็บนั้น
5. การแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นความในใจของเรื่องต่างๆ ความคิดเชิงสร้างสรรค์ หรือการบ่นที่ทุกคนมีอยู่ในใจ การทำ blog เป็นช่องทางถ่ายทอดความคิดเห็นให้คนอื่นรับรู้
6. ถ่ายทอดประสบการณ์ หรือไดอะรี่ออนไลน์ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวในชีวิตประจำวัน หรือเป็นการเล่าเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว เช่น www.terrystrek.com
7. โน้มน้าวใจผู้อ่าน ลักษณะนี้เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ แต่กรณีแบบนี้เป็นการขายความคิด อย่าง blog สำหรับคอการเมืองอาจจะมีฝ่ายซ้าย - ฝ่ายขวา,สายเหยี่ยว - สายพิราบ จะพบว่าเนื้อหาจะเป็นการโพสต์โจมตีฝ่ายตรงข้าม แล้วก็สนับสนุนแนวความคิดของตนเอง
ผู้คิดค้น Weblog
บางคนอาจรู้แล้วแต่บางคนก็ยังไม่รู้ว่า Web blog นั้นมีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ ผมมีเรื่องราวของ web blog มาเล่าให้ฟัง Web blog หรือ Blog เมื่อย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่เริ่มมีการใช้งานเวิลด์ไวด์เว็บ(www) เมื่อปี 1992 เจ้าหน้าที่ของ CERN (สถาบันวิจัยนิวเคลียร์ภาคพื้นยุโรป) ได้คิดค้นและสร้างเว็บมาเพื่อแจ้งข่าวสารใหม่ๆในวงการเว็บ รวมถึงข่าวสารเว็บไซต์ที่เกิดขึ้นใหม่ โดย ลิงค์ ไปยังเว็บอื่นพร้อมทั้งอธิบายด้วยว่าเว็บนั้นว่าเกี่ยวกับอะไร และมีอะไรน่าสนใจ เรียกได้ว่าเป็นเว็บแบบ What ‘s New
หลังจากนั้นใน ปี 1997 Mr.Jorn Barger ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บ robotwisdow.com ซึ่งเป็น Blog รุ่นแรกๆ ก็ได้คิดค้นคำว่า web blog ขึ้น จากนั้นก็เริ่มมี weblog ก็เกิดขึ้นตามมาเรื่อยๆ
ที่มา:http://en.wikipedia.org/wiki/Blog

Search Engine คืออะไร?
Search Engine (ภาษาไทย: เสิร์ชเอนจิน)
เป็นโปรแกรมในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ผ่านระบบเว็บไซต์และเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ข้อมูลที่ต้องการค้นหา เรียกอย่างเป็นทางการว่า
"โปรแกรมช่วยในการสืบค้นข้อมูล" ซึ่ง Search Engine สามารถสืบค้นได้ทั้งข้อความ
รูปภาพ สื่อมัลติมิเดีย ภาพเคลื่อนไหว วีดิโอ และข้อมูลอื่น ๆ ได้ตามต้องการ
โดยการกรอกคำค้นหา (Keyword) ลงไปในช่องคำค้นหาและคลิกค้นหา Search
Engine ก็จะรายงานเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหานั้น
ๆ ออกมาแสดงผลให้ผู้ใช้งานได้เห็น ผู้ใช้งานก็จะเลือกอ่าน Title,
Description ที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาหรือข้อมูลที่ต้องการและคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ข้อมูลเพื่อค้นหาข้อมูลต่อไป
ประโยชน์ของ Search Engine
Search Engine นั้นมีประโยชน์อย่างมากในการค้นหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตและเป็นเหมือนตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานและเว็บไซต์
ปัจจุบันผู้ใช้งานส่วนใหญ่ใช้งาน Search Engine มากกว่าการเข้าชมเว็บไซต์โดยตรง
เพราะว่าเว็บไซต์บนโลกมีมากมายหลายร้อยหลายพันล้านเว็บไซต์
และเราไม่สามารถรู้ได้ว่าข้อมูลที่เราต้องการนั้นอยู่ในเว็บไซต์ใด
เพราะฉะนั้นผู้ใช้งานจึงใช้ Search Engine เป็นตัวกลางในการค้นหาข้อมูล
เพื่อที่จะเข้าไปยังเว็บไซต์ที่มีข้อมูลที่ต้องการอยู่นั่นเอง
การทำงานของ Search Engine
Search Engine แต่ละประเภทจะมีการทำงานที่คล้าย ๆ
กันนั่นคือ การส่ง Web Crawler หรือ Spider ไปเก็บข้อมูลเว็บไซต์ต่าง
ๆ เข้ามาเก็บไว้ในระบบ เพื่อจัดทำเป็นดัชนี (Indexing) การค้นหา
และเมื่อผู้ใช้งานค้นหาข้อมูลผ่าน Search Engine ตัวโปรแกรม
Search Engine ก็จะทำการประมวลผลด้วยอัลกอลิทึมการจัดอันดับ (Ranking)
และนำผลลัพท์จากข้อมูลที่มีอยู่ออกมาแสดงผลให้ผู้ใช้งานได้เห็น
Search Engine ที่เป็นที่นิยม
ในปัจจุบันผู้ใช้งานในประเทศไทยจะใช้งาน Google
Search Engine ซึ่งคิดเป็น % แล้วมากถึง 95%
เลยทีเดียว เนื่องด้วยคุณภาพ ความเร็วในการค้นหา และลูกเล่นอื่น ๆ
เพราะฉะนั้นผู้ที่ต้องการทำ SEO ก็ควรที่จะศึกษาการทำงานของ Google
เพื่อที่จะทำให้อันดับการค้นหาของเว็บไซต์ตัวเองอยู่ในอันดับต้น ๆ
ได้นั่นเอง
ไทยมีบอร์ด กับ Search Engine
ไทยมีบอร์ดขับเคลื่อนโดย SMF ซึ่งในเรื่องของ
SEO นั้นถือว่ามีโครงสร้างทาง On Page ที่ดีอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นผู้ใช้งานที่ใช้บริการเว็บบอร์ดของไทยมีบอร์ดไม่จำเป็นที่จะต้องปรับแต่งโครงสร้างใด
ๆ ของเว็บบอร์ดเลย เพียงแต่ต้องทำ Off Page ใน Keyword
และหน้าที่ต้องการโดยการหา Backlink เข้าสู่เว็บไซต์
เพื่อที่จะทำให้อันดับการค้นหาอยู่ในอันดับต้น ๆ ได้
เพราะว่าเมื่อผู้ใช้งานค้นหาข้อมูลต่าง ๆ แล้วเห็นเว็บไซต์ของเราอยู่ในอันดับต้น ๆ
ผู้ใช้งานก็ย่อมที่จะคลิกสู่เว็บไซต์เราเป็นแน่ เพียงแค่นี้ก็จะได้คนเข้าเว็บ (Traffic)
กันแล้ว
ที่มา: http://www.thaimeboard.com/faq/qa-id14.html

Web browser คืออะไร
“Web browser คืออะไร” เป็นคำถามที่ผมยังสงสัยว่าทำไมคนยังคงถามและเรายังได้ยินบ่อยมาก
ทั้งจากเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ คือถามกันเกือบทุกวัยเลยก็ว่าได้ ที่เป็นเช่นนี้
ผมเดาเอาว่า ไม่ใช่ว่าพวกเราจะไม่รู้ซะเลยที่เดียวว่า Web browser คืออะไร
เพราะหลายๆท่าน (รวมทั้งผมด้วย) ต่างก็ใช้งานมันอยู่ทุกวัน
อย่างน้อยทุกคนก็ต้องรู้ละว่า Web browser (เว็บบราวเซอร์)
คือโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่ใช้ท่องเว็บหรือใช้ดูข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์
แต่นิยามที่แต่ละคนให้ ถึงจะไม่ผิด แต่ก็มีความหลากหลาย ไม่เหมือนกัน ไม่ครอบคลุม
หรือไม่ถูกต้องเสียทีเดียว ซึ่ง หลังจากได้ค้นหาและอ่านนิยามจากหลายๆ เว็บ ผมขอให้ความหมายของ
Web browser ใหม่ ดังนี้
Web browser คือซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเข้าถึงข้อมูลเและติดต่อสื่อสารกับระบบสารสนเทศที่อยู่ในรูปแบบของเว็บเพจ
ซึ่งอยู่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า World Wide Web (WWW)
WEB BROWSER คืออะไร ความหมายจากหลายๆ เว็บไซต์
ช่วงน้ำท่วม ผมอยู่ว่างๆ เลยลองค้นดูใน Google
ว่ามีใครให้ความหมายหรือนิยาม “Web browser คืออะไร”
ไว้อย่างไรบ้าง
จากผลการค้นหาผมไม่เจอคำนิยามจากหน่วยการที่น่าจะใช้อ้างอิงได้ อย่าง
กระทรวงไอซีที หรือหน่วยงานด้านภาษาต่างๆ แต่เจอในเว็บของสถานศึกษาและเว็บเกี่ยวกับไอทีอยู่พอสมควร
ในที่นี้ผมขออนุญาตนำ 2-3
ความหมายที่คิดว่าน่าจะถูกต้องมาลงไว้ด้วย ดังนี้
Web browser คือ
“โปรแกรมที่ใช้สำหรับท่องอินเทอร์เน็ต (sufring
the Internet) คือใช้ในการเปิด web page และอย่างอื่นอีกมาก” - http://www.vcharkarn.com/vblog/36733
“โปรแกรมที่ใช้สำหรับเป็นประตูเปิดเข้าสู่โลก WWW
(World Wide Web) หรือพูดกันอย่างง่ายก็คือโปรแกรม
ที่ใช้สำหรับเล่นอินเทอร์เน็ตที่เรานิยมใช้กันอยู่ทุกวันนี้
โดยเว็บเบราว์เซอร ์ (Web Browser) จะเข้าใจในภาษาHTML นี้คือเหตุผลว่าทำไมต้องใช้ภาษา
HTML ในการสร้างเว็บเพจ
เพราะโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์นั่นสามารถเข้าใจ และสามารถทำงานตามคำสั่งของภาษา HTMLได้”
- http://school.obec.go.th/pp_school/html/browser.html
“โปรแกรมคอมพิวเตอร์
ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ
เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล (html) ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์
หรือระบบคลังข้อมูลอื่นๆ
โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ”
- http://www.mindphp.com + http://th.wikipedia.org
Web browser คืออะไร ความหมายที่อาจทำให้หลายคนสับสน
Web browser คืออะไร ความหมายที่อาจทำให้หลายคนสับสน
จากนิยามของ Web browser ที่ได้ข้างต้น
รวมทั้งที่ผมได้ให้ไว้เล่นๆ ด้วย จะเห็นได้ว่ามีความหมายที่คล้ายๆ กัน คือ
อย่างไรก็ตาม จากนิยามหรือความหมายของ Web
browser ที่ผมเจอในเว็บต่างๆ ผมมองว่ามี 2
ประเด็นที่หลายๆ คนอาจจะยังสงสัยและอาจเป็นสาเหตุให้ตีความหรือเข้าใจว่า Web
browser คืออะไร แตกต่างหรือคลาดเคลื่อนกันไป คือ
การใช้คำ “สำหรับเล่นอินเทอร์เน็ต”
ที่อาจจะทำให้หลายๆ คนเข้าใจได้ว่า อินเทอร์เน็ต ก็คือ WWW
(World Wide Web) ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว
เพราะคำว่า WWW เป็นแค่ส่วนหนึ่งของ อินเทอร์เน็ต
ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายกว้างขวางกว่า และยังรวมเอาการใช้งานหรือหรือบริการอื่นๆ
นอกจาก WWW เอาไว้ด้วย เช่น อีเมล์ (e-mail) แชท
(Chat) IRC และ FTP เป็นต้น
การใช้คำ “ภาษา
HTML” ที่ผมว่ามันยากไปสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
หรือบางคนที่รู้มากขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะสงสัยอีกว่าแล้วภาษา Java,
Javascript, Asp, Php, CFM หรืออื่นๆ ล่ะมันคืออะไร ซึ่งในที่นี้
ผมขออธิบายให้เข้าใจนิดหน่อยว่า HTML คือภาษาหลักที่ Web browser ใช้แสดงผลหรือแสดงข้อมูลในหน้าเว็บเพจ
ส่วนภาษาอื่นๆ นั้นคือภาษาเสริม ที่ทำให้คนเขียนเว็บจัดการข้อมูลและการแสดงผลต่างๆ
ได้ดีและสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งในการใช้ภาษาเสริมอื่นๆ นั้น
ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมเพิ่มด้วย
เพื่อทำหน้าที่ประมวลผลแล้วแปลผลที่ได้ให้เป็นภาษาหลัก (HTML) ส่งให้
Web browser นำไปแสดงในหน้าเว็บเพจต่อไป ดังนั้น
ในการเขียนเว็บไม่ว่าจะใช้ภาษาเสริมอะไรก็ตาม จะต้องใช้ร่วมกับภาษาหลัก (HTML)
เสมอ และข้อมูลที่เราเห็นในหน้าเว็บเพจของทุกเว็บไซต์ก็จะถูกแสดงผลด้วยภาษาหลัก
หรือ HTML เสมอด้วยเช่นกัน
Web browser คืออะไร ความหมายโดยสรุปสั้นๆ
จากนิยามของ Web browser ที่ผมได้ให้ตามความเข้าใจข้างต้น
และจากการค้นหาและอ่านจากเว็บอื่นๆ ผมขอสรุปและให้นิยาม Web browser คืออะไร
ดังนี้
Web browser คือซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเข้าถึงข้อมูลเและติดต่อสื่อสารกับระบบสารสนเทศที่อยู่ในรูปแบบของเว็บเพจ
ซึ่งอยู่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า World Wide Web (WWW)
Web browser มีอะไรบ้าง
Web browser ที่เป็นที่นิยมและใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
มีดังนี้
Internet Explorer
Mozilla Firefox
Google Chrome
Safari
ที่มา: http://xn--webbrowser-zc5aprjea9b5g9j.blogspot.com/
browser is a software application for retrieving, presenting and traversing information resources on the World Wide Web. An information resource is identified by a Uniform Resource Identifier (URI/URL) and may be a web page, image, video or other piece of content.[1] Hyperlinks present in resources enable users easily to navigate their browsers to related resources.
ที่มา:http://en.wikipedia.org/wiki/Web_browser








ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น